วันจันทร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ม่าห์กระหายคะแนน

ปีศาจกระหายแต้ม

 

หลังจบเกมการแข่งขัน สาวก "เดอะ กันเนอร์ส" คงตกอยู่อารมณ์ "เฟ็งฝุดๆ" กับผลการประกวดประขันที่ไม่เป็นใจ ตรงข้ามกับฟอร์มโดยรวม

ศึกบิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ของลูกหนังเลือดผู้ดีที่คนทั้งโลกรอคอย จบลงด้วยอปราชัยของ แมนฯ ยูไนเต็ด ในกาลเวลาเปลี่ยนถ่าย เหนือคู่แข่ง อาร์เซน่อล ในยุคคิดใหม่ทำใหม่ ด้วยผลบอล 1-0

เห็นสกอร์จุ๋มจิ๋มแค่นี้ แต่ที่จริงไม่เล็กนะคร้าบบบ ...

"ไม่เล็ก" ในที่นี้หมายถึงเกมการประกวดประขันที่เต็มไปด้วยความมันส์ชนิด 6 สูบ 400 แรงม้า ไม่มีใครยอมใคร ประหนึ่งดังว่า ไอ้หรั่งแห่งสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ขอย่างกลายเทียบชั้น คุณลำยอง แห่งทองเนื้อเก้า ยังไง ยังงั้น

ขอพาดพิงอิงกระแสวงการซะหน่อยแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าขึ้นรถไฟไม่ทัน (ตกเทรนด์ 55) เพราะอย่างที่รู้ๆ กัน กระแสคัดค้านเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่เว้นแม้แต่ "ห้ามปรามการส่ง เวลเบ็ค ลงสนาม"



สาวก "ปีศาจแดง" บางท่านอาจเฮลั่นตั้งแต่ก่อนเกม หลังจากที่ "โก๋แดน" ยังไม่หายเจ็บเข่า ไม่มีชื่อในเกมนี้ ก่อนจะได้เฮเด้งที่ 2 กับ 3 แต้มที่ได้มาชนิดวาบหวิวฉิวเฉียด

เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ขุนพล "มอยส์ ยูไนเต็ด" เอาตัวรอดมาได้อย่างรอมร่อ คว้า 3 คะแนนสำคัญแบบทุลักทุเล ก่อนพักเบรกโปรแกรมทีมชาติในอีก 1 สัปดาห์ให้หลัง

แมตช์นี้ถือว่าแฟนลูกหนังได้เสพเกมที่มีคุณภาพอีกเกมหนึ่งเท่าที่อาจจะเคยเห็นมา ทั้งการเปิดเกมเร็วทางริมเส้นของ แมนฯ ยูฯ หรือจะการต่อบอลเท้าสู่เท้าอย่างแม่นยำ ของฝั่งอาร์เซน่อล

สุดท้ายตัวเลขบนสกอร์บอร์ดไม่เคยโกหกใคร แมนฯ ยูฯ สามารถฉกฉวยความได้เปรียบจากรูปเกมที่เหนือกว่าในครึ่งแรก กระทั่งได้ประตูชัยจากอดีตคนรักของเหล่า "กูนเนอร์ส" อย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ซัดประตูใส่อดีตชู้รัก เป็นลูกที่ 3 นับตั้งแต่เลิกรากันเมื่อซัมเมอร์ปี 2012



โดยหากได้เห็นอากัปกริยาหลังโขยกประตูของ "อาร์วีพี" แล้วแทบไม่เหลือเยื่อใยให้กับอดีตทีมเก่าแม้แต่น้อย แถมสมโภชบทรักอย่างดูดดื่มกับคู่หู เวย์น รูนี่ย์ อย่างถึงพริกถึงขิงไม่แคร์สายตาใครๆ

เท่ากับว่าหมดยกแรก แมนฯ ยูฯ ที่ดูสดกว่านำหน้าผู้มาเยือน 1 เม็ด พร้อมกับรูปเกมที่ขี่อยู่เล็กน้อย

เข้าใจว่า เดวิด มอยส์ คงจะติวเข้มลูกทีมมารับมือกับเกมนี้เป็นอย่างดี หลังเพิ่งคว้าชัยเพียงแค่ 2 เกมจากการเฝ้ารังโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาแล้วกว่า 5 นัด โดยเป็นการตีรั้ง 2 เกม และแทบเอาปี๊บคลุมหัวเดินในเกมพ่าย เวสต์บรอมฯ 1-2

แต่พอหลังพักให้น้ำไก่เท่านั้นล่ะพ่อคุณเอ๋ย !! วิญญาณปีศาจมอยส์ ผู้ชัดรับมากกว่ารุก เช่นเดียวกับชอบเป็นควีนมากกว่าคิง เข้าสมสู่สิงร่างหนุ่มใหญ่วัย 50 กระรัต สั่งเน้นรัดกุมเอาไว้ แล้วอยู่จังหวะโต้งามๆ พอ

เท่ากับว่าพอใจในสกอร์ที่มี แล้วหาทางขยี้ในเวลาที่เหมาะสม



หลักการดังกล่าวที่วางไว้ถือว่าบรรลุเป้าหลังสิ้นเสียงนกหวีด แต่ก็ทำเอาใจหายใจคว่ำอยู่ไม่น้อย เมื่อเจอพายุเกมบุกชนิดกะเอาตายของลูกทีมอาร์แซน เวนเกอร์ ถึงกับแทบกระอักกันเลยทีเดียว

บวกกับแข้งความจัดเจนสูงอย่าง เนมานย่า วิดิช หัวใจเด่นในแนวรับก็ดันมาเดี้ยง หลังจากกระบาลไปชนเข้ากับหัวเข่าของ ดาบิด เด เคอา ต้องถูกเปลี่ยนตัวออกช่วงพักครึ่ง งานหนักตกถึงมือ จอนนี่ อีแวนส์ เช่นเดียวกับ ฟิล โจนส์ ที่ต้องถอยลงมายืนเซ็นเตอร์แทน และทำผลงานได้อย่างดีเริ่ด

ต้องยอมรับว่าลูกบอลเท้าสู่เท้าของ อาร์เซน่อล เจ๋งเป้งสมคำร่ำลือ เท้าซ้ายของ เมซุต โอซิล เกริ่นทำงาน สยบแดนกลางของ "ผีแดง" จนอยู่หมัดและหาโอกาสเข้าทำได้เกือบทุกครั้งที่ได้บุก โดยเฉพาะลูกครอสทางริมเส้นฝั่งขวาของ บาการี่ ซาญ่า ที่ค่อนข้างเฉียบคมและเจนใจ

ความหวาดกลัวหวั่นเกรงแว็บเข้ามาในมโนสำนึก พลางให้ระลึกถึงความโศกีช่วงท้ายเกมเมื่ออดีตกาลไม่นานมานี้ หลังโดน เซาธ์แฮมป์ตัน บุกแบ่งแต้มถึงถิ่น ตีเสมอ 1-1 แบบเจ็บๆ นาที 89



แต่ก็จนแล้วจนรอดหวิดไปหวิดมา แผงตาข่ายทั้งสองฝั่งไม่ได้ทำหน้าที่สั่นไหวจวบจวน 45 นาทีหลัง เท่ากับว่า แมนฯ ยูฯ เก็บอปราชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน พร้อมกับสยบสถิติไร้พ่ายเกมนอกบ้านของ "ไอ้ปืนใหญ่" ที่ทำไว้ค้ำฟ้ากว่า 8 เดือนลงได้

ทีมของ "เฮียมอยส์" เรื่อยๆ มาเรียงๆ เกริ่นหาจุดลงตัวได้บ้างแล้ว จากนี้ไป บรรดาแข้งอินเตอร์เนชั่นแนล จะได้เดินทางไปรับใช้ชาติบ้านเกิดทำศึกอุ่นเครื่อง หรือเล่นคัดเลือกบอลโลกอยู่ก็ว่ากันไป เกือบ 2 สัปดาห์เต็มๆ ก่อนมีคิวบุก คาร์ดิฟฟ์ นู่นเลย 24 พ.ย.

3 คะแนนจากเกมนี้ ช่วยให้ แมนฯ ยูฯ กระโจนขึ้นสู่อันดับที่ 5 พร้อมทั้งบีบช่องว่างระหว่างหัวหน้าฝูง อาร์เซน่อล เหลือแคบลงเพียงแค่ 5 คะแนน

สาวก "ปีศาจ" เฮกันทั้งบ้านทั้งเมือง แต่เชื่อสิมีอีกทีมแอบยิ้มมุมปากไปกับเรา ไม่เชื่อไปถามคุณสรยุทธดู ฮ่าๆ



-จ่าตุ๊-

(tuta_giggs11@hotmail.com)

 

ติดตามข่าวกีฬา วิเคราะห์บอล ผลบอล ฟุตบอล รอบโลก ได้ที่นี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น